วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

อยากคล่องภาษาอังกฤษต้องลอง






การเน้นเสียง เป็นหลักสำคัญในภาษาพูดภาษาอังกฤษ  เจ้าของภาษาเขาจะเน้นเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เท่ากันไปหมด ต่างจากภาษาญี่ปุ่นหรือฝรั่งเศสที่แต่ละพยางค์จะออกเสียงเท่าๆกัน ทำให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาที่เน้นเสียงไม่ถูกต้องจะพบกับปัญหา 2 ประการคือ
1. เข้าใจเจ้าของภาษาได้ยากโดยเฉพาะคนที่พูดเร็วๆ
2. ในทางตรงข้าม เจ้าของภาษาก็จะเข้าใจสิ่งที่ผู้ไม่ใช่เจ้าของภาษาพูดได้ยาก
การเน้นเสียงคืออะไร เจ้าของภาษาอังกฤษจะไม่ออกเสียงทุกพยางค์ด้วยแรงที่เท่ากัน ในหนึ่งคำเขาจะเน้นพยางค์เดียว โดยออกเสียงดังและชัดมากกว่าพยางค์อื่นๆซึ่งจะออกเพียงเบาๆกว่า
 ตัวอย่างเช่น PHO to graph, pho TO graph er, pho to GRA phic
ในแต่ละคำจะมีพยางค์หนึ่งที่เน้นเสียงมากกว่าพยางค์อื่นและไม่ใช่เสียงพยางค์เดิมเสมอไป ลักษณะเช่นนี้พบในทุกคำที่เกิน 2 พยางค์
TEAcher, JaPAN, CAnada, aBOVE, converSAtion, INteresting, imPORtant, deMAND, etCETera, etCETera, etcetera
พยางค์ที่ไม่เน้นจะมีเสียงเบาหรืออาจไม่ออกเสียงเลย เจ้าของภาษาก็จะฟังพยางค์ที่เน้นไม่ใช่พยางค์ที่เบากว่า
ถ้าท่านเน้นเสียงถูกที่ ท่านจะพัฒนาได้ทั้งการออกเสียงและการทำความเข้าใจ
ทุกครั้งที่ฟังภาษาอังกฤษในวิทยุหรือในหนัง พยายามฟังเสียงพยางค์ที่เน้น
ขั้นแรกคือการฟังและจับให้ได้ จากนั้นท่านจะออกเสียงเป็น
เมื่อท่านเรียนรู้คำใหม่ ควรเรียนรู้ถึงวิธีการเน้นเสียงด้วย ถ้าท่านมีสมุดจดคำศัพท์ให้โน้ตด้วยว่าเน้นเสียงที่พยางค์ใด ถ้าไม่ทราบให้ใช้learner’s dictionary ซึ่งพจนานุกรมที่ดีทั้งหลายจะมีการสะกดออกเสียงคำให้ด้วย โดยมีสัญลักษณ์ apostrophe (') ที่หน้าหรือหลังพยางค์ที่เน้น นอกจากการเน้นเสียงคำแล้ว ท่านต้องเน้นประโยคให้ถูกต้องด้วยจึงจะพูดได้เหมือนเจ้าของภาษา
หลักการทั่วไปคำที่เน้นเสียงในประโยค ถือว่าเป็นคำเนื้อหา ซึ่งเป็นคำนาม เช่น kitchen, Peter คำกริยาหลัก เช่น visit, construct คำคุณศัพท์ เช่นbeautiful, interesting และคำวิเศษณ์ เช่น often, carefully
คำที่ไม่เน้นเสียงถือเป็น คำที่เป็นบทบาท ซึ่งเป็น คำนำหน้านาม เช่น the, a, an คำกริยาช่วย เช่น is, am, were คำบุพบทเช่น before, of, in คำเชื่อม เช่น but, and, so และคำสรรพนาม เช่น they, she, he
ให้ลองอ่านออกเสียงประโยคนี้ดังๆ
The beautiful mountain appeared transfixed in the distance.
แล้วให้อ่านประโยคนี้ดังๆ
He can come on Saturdays as long as he doesn't have to do any homework in the evening.
โปรดสังเกตว่าประโยคแรกใช้เวลาเท่าๆกับประโยคที่สองแม้ว่าประโยคหลังจะยาวกว่าถึง 30% นี่เป็นเพราะในแต่ละประโยคมีคำที่เน้นเสียงอยู่ 5 คำเท่ากัน
ทดลองกิจกรรมง่ายๆต่อไปนี้เพื่อฝึกการเน้นเสียงในประโยคที่ถูกต้อง
เขียนประโยค 2-3 ประโยคหรือเลือกจากหนังสือ เริ่มด้วยการทำเครื่องหมายคำที่เน้นเสียง (ถ้าไม่แน่ใจให้เปิดดูในพจนานุกรม) โดยการขีดเส้นใต้คำนั้นในแต่ละประโยค จากนั้นให้อ่านออกเสียงดังโดยมุ่งเน้นคำที่ขีดเส้นใต้และออกเสียงคำอื่นๆไล่ๆกันไปไม่เน้น
หากท่านทำเช่นนี้เป็นประจำ ท่านจะแปลกใจถึงความเร็วในการพัฒนาการออกเสียงของท่าน โดยวิธีการเพ่งไปที่คำที่ต้องเน้นเสียง คำและพยางค์ที่ไม่ต้องเน้นก็จะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติไปเอง
เมื่อฟังเจ้าของภาษาพูด ให้ตั้งใจฟังว่าเขาเน้นเสียงคำแต่ละคำอย่างไรแล้วพยายามเลียนแบบนั้นเมื่อท่านพูด
ข้อแนะนำ
1. จำไว้ว่าคำและพยางค์ที่ไม่เน้นในภาษาอังกฤษมักจะถูกกลืนไว้ในคอ
2. อย่าออกเสียงคำแต่ละคำในประโยคด้วยเสียงที่เท่าๆกัน ให้เน้นคำที่ต้องเน้นเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น